จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีสืบชะตาหลวงผู้สูงอายุ ประจำปี 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล สืบสานจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวล้านนา
วันนี้ (30 พ.ย. 68) ที่วัดสวนดอกพระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีสืบชะตาหลวงผู้สูงอายุจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2568 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงภาคีเครือข่าย จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคล สืบสานจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวล้านนา เชิดชูคุณค่าผู้สูงอายุ ส่งเสริมภูมิปัญญาผู้สูงอายุ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน โดยมีนางวิยะดา นราดิศร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายชมรมผู้สูงอายุจาก 25 อำเภอ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ ภาคเอกชน องค์กรภาคธุรกิจ สถานประกอบการ และประชาชนทั่วไปกว่า 1,000 คน เข้าร่วมพิธีสืบชะตาแบบล้านนา พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี โดยในงานยังมีผู้มีจิตศรัทธาจัดโรงทานให้กับผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย แสดงถึงความสามัคคี ความพร้อมเพรียงในการรักษาวัฒนธรรมประเพณี รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนานและเป็นการแสดงออกถึงศักยภาพของผู้สูงอายุ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคมปัจจุบันในการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณค่า
ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,799,019 คน มีจำนวนผู้สูงอายุ 424,571 คนคิดเป็นร้อยละ 20% โดยผู้สูงอายุมีการรวมตัวกันจัดตั้งชมรม ขึ้นทุกหมู่บ้าน รวม 2,160 ชมรม และได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ตามแนวทางของการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ทั้งทางด้านสุขภาพกาย และจิตใจ การมีส่วนร่วมของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการอนุรักษ์และสืบทอดจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ผู้สูงอายุให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะผู้สูงอายุเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ทั้งในด้านภูมิความรู้และประสบการณ์ สามารถอนุรักษ์ส่งเสริมและถ่ายทอดประเพณีภูมิปัญญาให้แก่คนในชุมชนและสังคมเป็นอย่างดี สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะองค์กร ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ มีหน้าที่ส่งเสริมและสืบสานจารีตประเพณี ภูมิปัญญาของผู้สูงอายุให้แก่ชุมชน สังคมได้ตระหนักในคุณค่าความดีงาม เพื่อสืบสานภูมิปัญญาให้คงคุณค่าคู่กับชุมชนต่อไป
